หน้าแรก

เอกลักษณ์ความโดดเด่นของผ้า

ประวัติความเป็นมา ผ้าฝ้ายย้อมครามเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาแต่ครั้งปู่ ย่า ตา ยาย โดยการทอผ้าด้วยมือไว้ใช้ และเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเรียกว่า “ผ้าฝ้ายย้อมคราม” ซึ่งแต่เดิมจะเย็บด้วยมือ เป็นเสื้อผ้าสวมใส่สำหรับผู้หญิง ส่วนผู้ชายจะทอเป็นผ้าขาวม้าใส่นุ่งแบบโจงกระเบนหรือผ้าเตี่ยว ต่อมาในปัจจุบันเกิดการรวมกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติขึ้น เพื่อทอผ้าจำหน่ายเป็นรายได้เสริมจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่ง

ลักษณะและลวดลายการทอหรือการผลิต

ขั้นตอนการผลิต วัตถุดิบการทอผ้าย้อมคราม ฝ้ายได้จากนวลของดอกฝ้ายที่บานเต็มที่ นำมากรอหรือเข็นเป็นเส้นฝ้าย ก่อนนำไปย้อมด้วยน้ำคราม และนำมาทอเป็นผ้า สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

การเตรียมสีครามและย้อมสีครามมีเทคนิคพิเศษกว่าการย้อมสีธรรมชาติอื่น ๆ เริ่มตั้งแต่การเลือกใบครามอายุพอดีและอยู่ในสภาพใบสด ดังนั้นจะต้องเก็บใบครามอายุประมาณ 3-4 เดือน ในตอนเช้ามืดก่อนน้ำค้างแห้ง และนำมาแช่น้ำให้ท่วมใบครามพอดีทันที แช่ไว้ประมาณ 10-12 ชั่วโมง จึงกลับใบครามข้างล่างขึ้นทับส่วนบน แช่ต่อไปอีก 10-12 ชั่วโมง ใบครามจะถูกสลาย (hydrolyse) ให้สีคราม (indoxyl) ออกมาอยู่ในน้ำครามได้มากที่สุดในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ได้น้ำครามใส สีฟ้าจาง จึงแยกกากใบครามออก

ในขั้นตอนของการย้อมครามจะมีส่วนผสมอื่น ๆ ขั้นตอนการย้อมที่สืบทอดกันมาแต่อดีตเพื่อให้ได้ผ้าครามที่สีสวยและสีไม่ตก หลังจากนั้นก็นำเส้นฝ้ายลงย้อม จะได้เส้นฝ้ายสีฟ้าครามสวยงามสีไม่ตก หรือหากต้องการผ้าฝ้ายที่มีลวดลายต่าง ๆ จะต้องผ่านขั้นตอนของการมัดเพื่อให้ได้ลายที่ต้องการ จะมีทั้งลายที่คิดขึ้นใหม่ ลายที่สืบทอดกันมา หรือลายที่ประยุคผสมผสานกัน เรียกขั้นตอนนี้ว่าการมัดหมี ซึ่งจะต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก จึงจะได้ ผ้าย้อมคราม ที่สีสวยธรรมชาติ

เมื่อได้เส้นผ้าฝ้ายแล้วจึงจะนำมาเข้าขั้นตอนการทอ ซึ่งผ้าย้อมครามของบ้านก้างปลาใช้วิธีการทอมือที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ถือได้ว่าเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมายาวนาน

ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงหรือโดดเด่น

ผ้าพื้นเมือง ผ้าคลุมไหล่ ผ้าปูโต๊ะ ผ้าพันคอ ผ้ามัดหมี่ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

สินค้าทั้งหมด
loader-image

สินค้า